เรียนไม่จบ ก็รวยได้..!



คนที่เรียนไม่จบ ก็สามารถรวยเป็น มหาเศรษฐีได้…
ชีวิตลิขิตเอง เพราะใบปริญญา ไม่ใช่ ใบลิขิตชีวิตคน…
คนจะประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น ไม่จำเป็นต้องมีใบปริญญา ก็ประสบความสำเร็จได้
ใบปริญญา อาจไม่ใช่ ทุกอย่างเสมอไป..!

บทความต่อไปนี้ นำเสนอเพื่อ เป็นกำลังใจ…
ให้กับบางคน ที่เรียนไม่จบ หรือบางคนคน ที่เรียนแย่ นะครับ!

เรื่องราวต่อไปนี้ ไม่ได้นำเสนอเพื่อ…
บั่นทอนกำลังใจ หรือต้องการให้ เด็กไทยขี้เกียจนะครับ
เพราะไม่ว่าจะยังไงก็ตาม…
การศึกษา ก็ยังเป็นที่ สิ่งสำคัญเสมอครับ!

เรียนไม่จบ ก็รวยได้
เรียนไม่จบ ก็รวยได้ ภาพประกอบจาก อินเทอร์เน็ต

+++ เรียนไม่จบ ก็รวยได้..! +++
เป็นเรื่องราวจาก กระทู้ของจากเน็ต นะครับ เรื่องมีอยู่ว่า…

คนที่เรียนแย่ แต่ทำไม ประสบความสำเร็จ คนที่เรียนดี กลับสู้ไม่ได้…

ผมไปงานแต่งงานเพื่อนมา รู้สึกว่าตัวเอง Fail มาก ย้อนไปตอนสมัยม.ปลาย ผมสอบได้ในระดับต้น ๆ ของห้องตลอด (ห้องคิง)

ตอนเข้ามหาลัยก็เข้ามหาลัยรัฐมีชื่อได้ และจบได้เกียรตินิยม อันดับ 2 จากนั้นก็เรียนโทต่อ พอเรียนจบก็เข้าทำงานเป็นวิศวะในโรงงานหนึ่ง เงินเดือนตอนนี้ได้สี่หมื่นกว่าบาท

ย้อนกลับไป มีเพื่อนคนนึง ตอนเรียนแย่มาก เกรดเฉลี่ยออกมาแย่กว่าห้องรอง ๆ อีก เอ็นไม่ติด จากนั้นก็ได้ข่าวว่าไปเรียนมหาลัยเอกชนที่นึง แล้วก็เรียนไม่จบ

ผ่านไปประมาณ 10 ปี ตอนนี้ผมอายุ 28 แล้ว ไปงานแต่งงานเพื่อน ก็เห็นเพื่อนคนนี้ มากับเพื่อนผู้หญิงอีกคน คือ 2 คนนี้เค้าเป็นแฟนกัน และจะแต่งงานกันปีหน้า

เพื่อนผู้หญิงคนนี้สวยมาก ผมเคยจีบอยู่ตอนเรียน แต่จีบไม่ติด ยังงงอยู่ ไอ้นี่จีบติดได้ไง

ทั้ง 2 คนนี่ เพื่อน ๆ ต่างงงมาก ว่ามาเป็นแฟนกันได้ยังไง เพราะทั้ง 2 คนนี้ หายหน้าหายตาไปเลย Facebook ก็ไม่เล่น เบอร์โทรก็เปลี่ยน ไม่มีใครติดต่อได้

มาตอนนี้ เท่าที่ได้ฟัง จากที่ผู้หญิงเล่ามา คนผู้ชายเป็น เจ้าของบริษัทอยู่ 2 ที่ แล้วมีโรงงานอีกแห่งนึง



คนผู้หญิงเปิด Ipad โชว์ให้ดูว่าบ้านเป็นยังไง คอนโดที่หัวหินเป็นยังไง บริษัทเป็นยังไง และคนผู้ชายเคยมีนิตยสาร (ที่ไม่ค่อยดัง) ไปสัมภาษณ์เค้าอยู่ 4 – 5 เล่ม

ก็รู้สึกทึ่งนิด ๆ ว่าทำไมแค่ผ่านไป 10 ปี จากคนที่ผมเคยคิดว่า ต้องล้มเหลวแน่ ๆ โดยที่เค้าเรียนไม่จบ ต้องออกจากการเรียนตั้งแต่ปี 1

กลับมามีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่ผมเทียบไม่ได้ ทั้งเรื่องแฟนสวย มีรถดี ๆ อย่างปอร์เช่ คาเยน ที่ทั้งชีวิตผมคิดว่า ซื้อไม่ได้ แล้วก็ยังมี รถสปอร์ตที่บ้านอีกหลายคัน

ผมเองตอนซื้อ Civic ยังต้องให้ที่บ้านช่วยเลย และมีบ้านหลังใหญ่ในกรุงเทพ ผมเองอยู่หอใกล้ที่ทำงาน รายได้คงเทียบกันไม่ติด

มองดูแล้ว ทุกอย่างเหนือกว่าหมด ทำให้ผมรู้สึก Fail ไปเลย เหมือนกับว่าผมเรียนมาหนัก ตลอดเวลาตั้งใจเรียนมาตลอด อยากจะมีหน้าที่การงานดี ๆ

แต่กลับแพ้คนที่แย่กว่าในตอนเรียน ในใจก็คิดว่า ตัวเองประสบความสำเร็จอยู่ ได้ตามที่หวัง ทำงานอยู่บริษัทที่ดี มั่นคง แต่พอไปเทียบกับเพื่อนคนนั้นแล้ว รู้สึกล้มเหลวทันที

ตอนนี้เลยรู้สึกว่าตัวเอง Fail มากเลย ที่ผ่านมาตั้งใจไปเพื่ออะไร ผมควรทำยังไงถึงจะประสบความสำเร็จบ้าง ตอนนี้มาคิดดู เงินเดือนจากที่เคยว่าเยอะ มันช่างน้อยนิดจริง ๆ…
ที่มา http://pantip.com/topic/30980964

คนที่เรียนไม่จบ ก็สามารถรวยเป็น มหาเศรษฐีได้
คนที่เรียนไม่จบ ก็สามารถรวยเป็น มหาเศรษฐีได้ ภาพประกอบจาก อินเทอร์เน็ต

+++ เรียนแย่ เรียนไม่จบ ก็ประสบความสำเร็จได้ +++
คนเรียนไม่เก่ง เรียนไม่จบ ก็ประสบความสำเร็จได้
ยกตัวอย่าง คุณตัน ภาสกรนที จาก ม.3 สู่ เศรษฐีผู้ร่ำรวย
แต่เบื้องหลังชีวิต กว่าจะประสบความสำเร็จได้
ก็ต้องผ่าน อุปสรรคมากมายครับ….

สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่า… ไม่ว่าจะเรียนจบ หรือเรียนไม่จบ
ถ้าอยากจะ ประสบความสำเร็จ… อยากจะรวย ก็ต้อง ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ และอดทนครับ!

5 thoughts on “เรียนไม่จบ ก็รวยได้..!”

  1. # ความคิดเห็นจากผู้อ่าน
    ผมคิดว่า มหาลัยไม่ได้สอน วิชาหาเงินคับ
    แต่สอนวิชาการ เป็นลูกจ้าง
    ไม่เชื่อ เอาหลักสูตร มากางดูเลยคับ
    นี่คือเหตุผลที่ ผมจะไม่ต่อ ป.โท
    แต่จะเก็บเงิน ไว้ลงทุน
    ยกเว้นบางมหาลัยนะที่อาจมีคณะพวก entreprenership

    —————————————————————————-

    สำเร็จ 1 คน กลายเป็นตำนาน แต่เราไม่มองอีก 100 คนที่ล้มเหลว

    ลองคิดเป็นอัตราส่วนของคนที่เรียนไม่จบแล้วประสบความสำเร็จเทียบกับคนที่เรียนจบสิ

    คุณคิดมาก เพราะคุณเห็นเฉพาะส่วนที่อยากเห็น เบื้องหลังคนที่ ประสบความสำเร็จมีความยากลำบาก มีคนล้มเหลวอยู่มากมาย ที่คุณไม่ยอมมอง

    การเรียนมันก็เหมือนกับซื้อประกัน คือต่อให้คุณไม่ประสบความสำเร็จ ก็อาจจะมีชีวิตแบบกลางๆ

    แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้เรียน ถ้าเขาไม่ประสบความสำเร็จ ก็อาจจะล้มเหลวยากจนไปเลย

    ผมเชื่อว่าคนที่ ประสบความสำเร็จจากติดลบนั้น มีสิ่งที่เหมือนกันอยู่คือความกล้าเสี่ยง กล้าได้กล้าเสีย มีความเป็นนักพนันอยู่ในตัว

    สิ่งเหล่านี้ เป็นเบื้องหลังความสำเร็จ ของนักธุรกิจส่วนใหญ่ ดังนั้นอย่างที่บอกแล้วว่า ข้างหลังคนที่ประสบความสำเร็จ มีคนอีกมากกว่าที่เสี่ยงแล้วล้มเหลว

    ถ้าคุณอยากสำเร็จ คุณก็ต้องเพิ่มความเสี่ยงเข้าไปอีก ทำนอง High Risk High Return หรือคุณจะเลือก ทางไต่เต้าขึ้นไปเรื่อยๆแบบ Slow but Sure ก็เลือกเอาเองแล้วกัน

    ผมเชื่อว่า ทั้งสองทางไม่มีถูกไม่มีผิด ขึ้นอยู่กับอุปนิสัย และสภาพของแต่ละคน ว่าเหมาะกับแบบไหนมากกว่า

  2. คนที่เรียนแย่ แต่ทำไม…
    ประสบความสำเร็จ คนที่เรียนดีกลับสู้ไม่ได้
    ประเด็นน่าสนใจ ครับ

    ——————————————-

    พอเห็นเพื่อนสำเร็จ แทนที่จะยินดี และกระตือรือร้นขอคำแนะนำ
    คุณกลับมี ego ที่ยังติดภาพความเหนือกว่า สุดท้ายก็ต้องกลับมา fail เงียบ ๆ คนเดียวที่บ้าน
    ถ้าจะถามว่าเพื่อนคุณมีอะไรที่คุณไม่มี

    1. ความกล้าที่จะคิด และปฏิบัติ
    2. ทัศนคติเชิงบวก

    เรื่องอื่น ๆ ยังไม่ต้องพูดถึงหรอก
    หากคุณยังไม่สามารถปลูกความคิด 2 อย่างนี้ในใจคุณได้
    คุณจะไม่มีวันได้แตะเท้าเข้าไปอยู่ในโลกของเพื่อนที่คุณอิจฉาเลย ตลอดชีวิตของคุณ

    แต่อย่าไปคิดมาก
    คนที่เรียนไม่เก่ง แล้วประสบความสำเร็จน่ะ มันก็แค่ส่วนน้อย
    แต่เป็นส่วนน้อยที่คนส่วนมาก ไม่เคยคิดจะทำความเข้าใจว่า
    คนกลุ่มนี้ มีอย่างอื่นที่ดีและเจ๋งกว่าปริญญามากมายนัก
    ที่มา https://www.facebook.com/100lanfan/posts/431260250328073

  3. +++ ชีวิตไม่ใช่ Checklist โดย : นิศรา การุณอุทัยศิริ +++
    คุณเคยแปลกใจไหมคะ ว่าทำไมคนที่เรียนเก่ง จบมาจากมหาวิทยาลัยดีๆ เกรดสูงๆ แต่สุดท้ายชีวิตกลับไม่ประสบความสำเร็จ

    ด้วยความที่ดิฉันเป็น นักวิทยาศาสตร์ ชอบสังเกตและวิเคราะห์ไปเสียทุกสิ่งอย่าง ที่ผ่านมาในชีวิต ดิฉันก็อดไม่ได้ ที่จะวิเคราะห์ชีวิตผู้คน ที่ดิฉันมีโอกาสได้พบเจอ แล้วดูว่าแต่ละคน ประสบความสำเร็จกัน เพราะอะไร?

    ตอนที่ดิฉันเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ ก็ได้มีโอกาสในการเป็น Teaching assistant หรือผู้ช่วยสอน ซึ่งหนึ่งในหน้าที่ก็คือต้องจัดสอน Recitation หรือ Review Session ให้กับนักศึกษานอกเวลา ที่อาจารย์สอนในห้อง เพื่อช่วยให้ นักศึกษาเข้าใจในวิชานั้นๆ ได้มากขึ้น

    ใครไม่ได้มีโอกาส หรือไม่กล้าสอบถามอาจารย์ในห้อง ก็สามารถมาถามใน Review Session กับผู้ช่วยสอนอย่างพวกเรา

    +++ ไม่ว่าจะเป็นวิชาไหนที่ดิฉันสอน ดิฉันจะสามารถแบ่งเด็ก ออกได้เป็นสองกลุ่ม ที่มาเข้าเรียนใน Review Session +++

    1. กลุ่มแรก คือนักศึกษาจะเข้ามาถามเพราะ อยากเข้าใจจริงๆ

    2. แต่อีกกลุ่มเข้ามาเพื่อ อยากทำการบ้านและข้อสอบให้ได้ ไม่ได้อยากเข้าใจอะไรมากนัก พวกนี้จะขอให้เราแค่ แนะวิธีตอบให้ถูกเป็นพอ เรียกว่าถ้าขอดูข้อสอบได้ คงขอไปแล้ว

    หลายๆ ครั้งเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ ที่เด็กกลุ่ม “งกคะแนน” กลับเป็นกลุ่มที่จบด้วย เกรดสูงกว่าคนอื่น เด็กกลุ่มนี้มักจะเก่งในการสอบมาก เรียกได้ว่าสิงห์สนามสอบเลยทีเดียว กิจกรรมนอกห้องเรียน ไม่ต้องหวังว่าจะเห็นเด็กเหล่านี้

    ถ้าเลือกได้ จะเลือกเรียนวิชาที่เกรดได้มาง่ายที่สุด อันไหนไม่บังคับอย่าหวังเลยว่าจะลงเรียน สุดท้ายยังจบด้วยเกียรตินิยมอีกด้วย

    (ก่อนที่ดิฉันจะเล่าต่อไป ดิฉันต้องขอออกตัวว่า ดิฉันไม่ได้มีเจตนารมณ์ ที่ตราหน้าคนที่ได้เกียรตินิยมว่า เป็นคนงกคะแนนนะคะ ดิฉันเองก็เป็นเด็กที่ตั้งใจเรียน และก็จบมาด้วยเกียรตินิยมเช่นกัน แต่อยากยกตัวอย่างให้ดูว่า บางครั้งสิ่งที่อยู่บนกระดาษหนึ่งใบ ไม่สามารถบ่งบอกคุณภาพของคนได้เสมอไป)

    เด็กเหล่านี้เมื่อมาดำเนินชีวิตจริงมักจะ “แป้ก” เพราะตลอดเวลามาเขาจะมี Checklist ว่าคน “เก่ง” ต้องเป็นอย่างไร จบแล้วต้องหางานที่เงินเดือนสูงที่สุด ถึงแม้จะไม่ใช่งานที่ตัวเองชอบก็ตาม

    พอได้เข้าทำงานที่ดีเพราะ ใบปริญญาพร้อมเกียรตินิยมนั้น ก็จะเร่งหาคู่ชีวิต รักหรือเปล่าไม่รู้ ขอแค่เดินควงคู่แล้ว ดูดีเป็นเอา ถ้าเป็นไปได้ก่อนอายุ 30 ต้องแต่งงาน ก่อน 35 ต้องมีลูก ยิ่งได้ชายคนหญิงคนเป็นสุขีกันทีเดียว

    ชีวิตคนเหล่านี้ถ้าดูจากภายนอกแล้ว เหมือนจะประสบความสำเร็จ แต่ในระยะยาว เขาเหล่านี้มักจะล้มอย่างไม่เป็นท่า เพราะตลอดมาเขาได้แต่พยายามทำ Checklist ที่สังคมกำหนดไว้ให้เขา

    เวลาที่เขาได้เข้าไปทำงานจริงๆ ใช่ว่าคนเหล่านี้จะประสบความสำเร็จเสมอไป ใบปริญญา เกรดเฉลี่ย และเกียรตินิยม เป็นแค่ใบเบิกทาง ให้เขาได้เข้าไปทำงานในที่ที่หลายคนอาจใฝ่ฝัน แต่การที่จะประสบความสำเร็จในองค์กรเหล่านั้น ต้องใช้วิทยายุทธมากกว่าที่เขาเคยฝึกฝนมา ชีวิตการทำงานจริงไม่มี Checklist เสมอไป

    การติดกับการทำ Checklist ว่าวันนี้ฉันทำแค่ที่เจ้านายสั่งเป็นพอ ความรู้ที่เขาได้มาจากการศึกษา ก็ใช่ว่าจะเพียงพอ เพราะเกรดที่สวยหรูของเขา เป็นแค่ความเก่งในการทำข้อสอบเท่านั้น วิชาที่ได้เกรดเอมาตลอด ก็คืนอาจารย์ไปตอนที่เดินออกจากห้องสอบ เพราะไม่ได้เข้าใจจริง

    คนเหล่านี้ จึงมักไม่ได้มีความอยากเข้าใจว่า องค์กรมีวิสัยทัศน์และพันธกิจอะไร ไม่ได้มีความกระตือรือร้น ที่จะทำอะไรนอกเหนือจาก ที่ได้รับมอบหมาย ไม่ได้อยากหาความรู้ใหม่ๆ ไม่ต้องการจะ ผูกความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน จะสนใจคนอื่นก็ต่อเมื่อ เขามีประโยชน์เท่านั้น

    พฤติกรรมเหล่านี้ เป็นผลลัพธ์จากการที่เขาติดกับนิสัย Checklist นั่นเอง กว่าจะรู้สึกตัวก็อาจมีอาการ Mid-life crisis ซึ่งมีอาการจิตตก เศร้า หมดอาลัยตายอยาก หลายคนอาจนั่งเสียใจ กับสิ่งที่เลือกให้กับชีวิตตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องครอบครัว

    สุดท้ายก็จะออกอาการโทษคนอื่น โยนความผิดให้ผู้ปกครอง ที่บังคับให้เรียนวิชานี้สาขานี้ หรือโทษครูบาอาจารย์ว่า ไม่เคยสอนวิธีการทำงานให้สำเร็จ โทษคู่ชีวิตว่าไม่ดีพอ สารพัดจะโทษ แต่เขาเหล่านี้อาจลืมที่จะโทษตัวเองว่ามัวเลือกไปทำตาม Checklist ที่สังคมกำหนดเอง

    สำหรับดิฉัน ชีวิตไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่มี Checklist ให้ติ๊ก แต่ชีวิต เป็นการเอาประสบการณ์ในอดีต มาเชื่อมโยงบูรณาการ เพื่อให้บังเกิดซึ่งความสำเร็จส่วนตัว การเชื่อมโยงประสบการณ์นี้เป็นหลักการที่ Steve Jobs เคยกล่าวในสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัย Stanford ว่า…

    ชีวิตก็เหมือนกับการ connecting the dots บางครั้งเราอาจไม่ทราบได้ว่า เราเรียนวิชานี้ไปทำไม แต่เราอาจต้องใช้มัน ในอนาคตอย่างไม่คาดคิดเลยก็ได้ เราอาจไม่ทราบว่าเราถูกไล่ออกจากงานเพราะอะไร แต่อาจเป็นเพราะ การต้องหางานใหม่เนี่ยเอง ทำให้คุณได้ไปเจอว่าที่ภรรยาของคุณ ในเมื่อไม่มีใครทราบได้ว่าจะมีอะไรรอเราอยู่ในภายภาคหน้า

    ดิฉันจึงอยากให้ทุกท่าน พยายามรู้สึกซาบซึ้งทุกห้วงขณะที่มีอยู่ โอบกอดประสบการณ์ชีวิต ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข เพราะคุณจะไม่รู้ว่า ที่คุณต้องทุกข์วันนี้ อาจนำพามาสู่ความสุขอย่างยั่งยืน ในวันข้างหน้าก็เป็นได้

    ความสำเร็จมีหลายรูปแบบ แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ดิฉันไม่อยากให้ใคร ต้องเดินตามรอยเท้าของคนอื่น เพียงเพื่อจะทำตาม checklist ที่สังคมกำหนดให้ ดิฉันอยากให้ทุกท่านมุ่งหน้า Push the limit เพื่อตัวเอง เพราะชีวิตเรา เราลิขิตเอง
    ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/nitsara_k/20130910/528156/%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%88-Checklist.html

  4. เงิน เงิน เงิน | เงินคือสิ่งที่ทุกคนปรารถนา | Money
    นำ บทความดีๆ มีประโยชน์มาฝากครับผม…

    ความจริงเรื่องเงิน ที่คนไทยต้องรู้…
    http://www.money.matethai.com/cash

  5. จบ ป.4 ยังรวยได้!
    ขนาดจบ ป.4 ยังเป็นเศรษฐีได้
    คิดเป็นรวยก่อน ถ้าได้อ่านแล้วทุกคน จะต้องร้อง เป็นเสียงเดียวกันว่า…
    “เราน่าจะรวยมาตั้งนานแล้ว..!”

    ถ้าคิดเป็น จบ ป.4 ก็รวยได้ ไม่ง้อปริญญา
    เขาบอกว่า “ถ้าอยากรวย…ต้องคิดให้เป็น”
    ผู้คนก็พากันสงสัยว่า แล้วไอ้คิดเป็นเนี่ย มันคิดกันอย่างไร
    คนที่ร่ำรวยปัจจุบัน เขาคิดอย่างไรถึงรวย…
    น่าสนใจมั้ย…โยม….?
    ถ้า สนใจเดินตามอาตมาไป…
    http://www.money.matethai.com/cash/4-rich

Leave a Reply